- หน้าหลัก
- ข่าวสารและสาระน่ารู้
- กาวยางเอทีเอ็ม เบอร์ 10 จากอุไรเพ้นท์ (ATM Special Adhesive No. 10) คืออะไร

กาวยางเอทีเอ็ม เบอร์ 10 จากอุไรเพ้นท์ (ATM Special Adhesive No. 10) คืออะไร
ประเภท:สาระน่ารู้,
ประเภทรอง:พื้นผิวไม้
กาวยาง เอทีเอ็ม เบอร์ 10 จากอุไรเพ้นท์ คือกาวเอนกประสงค์คุณภาพสูงที่ผลิตจากเนื้อกาวคุณภาพดี สามารถยึดติดวัสดุได้หลากหลายชนิด
โดยเฉพาะวัสดุที่ต้องการการยึดเกาะแน่น เช่น ไม้ โฟเมก้า ลามิเนต แผ่นพีวีซี พลาสติก หรือแม้แต่เครื่องหนัง เช่น รองเท้า กระเป๋า
โดยเฉพาะวัสดุที่ต้องการการยึดเกาะแน่น เช่น ไม้ โฟเมก้า ลามิเนต แผ่นพีวีซี พลาสติก หรือแม้แต่เครื่องหนัง เช่น รองเท้า กระเป๋า

ประเภทของกาวยาง
โดยทั่วไป กาวยางสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:
- กาวยางน้ำ
- กาวยางโซลเวนท์ (Solvent-based)
กาวยาง เอทีเอ็ม เบอร์ 10 จัดอยู่ในประเภทโซลเวนท์ ซึ่งมีจุดเด่นด้านการยึดเกาะที่แข็งแรง ใช้งานง่าย แห้งไว สามารถนำไปใช้ติดวัสดุหลากหลายประเภท เช่น แผ่นไม้ ลามิเนต โฟเมก้า แผ่น PVC หรือแม้แต่งานหนังที่ต้องการความแม่นยำในการยึดติด

ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของกาวยาง เอทีเอ็ม เบอร์ 10
- อุณหภูมิและความชื้น: พื้นที่ที่มีความชื้นต่ำจะช่วยให้กาวยางแห้งเร็วและยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น
- สภาพพื้นผิววัสดุ: ควรทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะ
- ความหนาแน่นและเนื้อกาว: กาวยาง เอทีเอ็ม เบอร์ 100 มีความหนืดและเนื้อกาวที่เหมาะสม จึงสามารถเคลือบและยึดติดวัสดุได้แนบแน่น โดยการทาแค่บางๆ

วิธีการใช้งานกาวยาง เอทีเอ็ม เบอร์ 10
1. ทำความสะอาดพื้นผิววัสดุให้แห้งและปราศจากฝุ่น
2. ใช้หวีปาดกาว (ไม่ควรใช้แปรงทาสี) ปาดกาวให้ทั่วพื้นผิววัสดุทั้งสองด้าน ไม่ต้องทาหนา ทาบางๆได้เลย
3. รอให้กาวแห้งประมาณ 7-15 นาที หรือจนผิวกาวไม่เหนียวมือ
4. ประกบวัสดุเข้าด้วยกัน กดให้แน่นทั่วแผ่น

การเก็บรักษากาวยาง เอทีเอ็ม เบอร์ 10
- ควรปิดฝาให้แน่นทันทีหลังใช้งาน เพื่อป้องกันการแห้งตัวของกาวภายในกระป๋อง
- เก็บในอุณหภูมิห้อง ไม่ร้อนจัดหรือโดนแดดโดยตรง
- อายุการเก็บประมาณ 1-2 ปีหากยังไม่เปิดใช้งาน และควรใช้ให้หมดภายใน 6 เดือนหลังเปิด

การลบคราบกาวยาง
- หากมีคราบเลอะเทอะ สามารถใช้ ทินเนอร์หรือน้ำยาลบคราบกาว เช็ดทำความสะอาดเฉพาะจุดได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการเก็บงานหรือแก้ไขงาน

คุณภาพมาตรฐานของกาวยาง เอทีเอ็ม เบอร์ 10
- เนื้อกาวคุณภาพดี มีความข้นเหลวพอเหมาะ
- ปริมาณเนื้อกาวสูง
- ความหนืดเหมาะสม (วัดเป็นเซนติพอยส์)
- แรงยึดเกาะยอดเยี่ยมทั้งแรงลอกและแรงเฉือน
- ความหนาแน่นของเนื้อกาวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม